1 Day Trip “ชมวัดเก่าอยุธยา”
รีวิวเที่ยวอยุธยา 1 วันชมวัดเก่า
สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น-ตอนปลาย
หากจะกล่าวว่า “จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” มีวัดมากที่สุดในประเทศไทยก็คงจะไม่ผิด เพราะจังหวัดนี้ครั้งนึงเคยเป็นราชธานีเก่าของกรุงศรีอยุธยามาก่อน ดังที่เราเคยได้ยินในเนื้อเพลงบางช่วงบางตอนอย่าง “อยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน” จึงได้มีการสร้างวัดขึ้นทั้งในและนอกเกาะอยุธยา เพื่อใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆของบ้านเมือง และบ้างก็ถือเป็นอนุสรณ์สถาน
วัดแต่ละแห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน เช่นเดียวกับเรื่องราวของจังหวัดแห่งนี้ ในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2534 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้พื้นที่เกาะเมืองอยุธยาเป็นมรดกโลก ภายใต้ชื่อ “นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองบริวาร” ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 กรมศิลปากรได้กำหนดขอบเขตโบราณสถานเพิ่มเติม ซึ่งรวมไปถึงพื้นที่รอบนอกของเกาะเมืองด้วย
แม้ว่ากรุงศรีอยุธยาจะถูกเผาทำลายลงในช่วงเสียกรุงครั้งที่ 2 แต่นั้นก็ไม่สามารถทำลายความยิ่งใหญ่ของเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ลงได้ สิ่งต่างๆยังคงทิ้งร่องรอยที่คอยบอกเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในอดีต ข้ามผ่านกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน ดั้งนั้นเราจึงจะพาคุณไปเที่ยวชมวัดเก่าเหล่านี้ ให้ได้รู้ถึงความเป็นมาและความสำคัญเมื่อครั้งอตีด ในช่วงสมัยอยุธยาตอนต้นจนถึงตอนปลาย
แผนเที่ยวอยุธยา 1 วันไหว้พระชมวัดเก่า
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว
ค่าใช้จ่ายโดยรวม: ~ 1,050 บาท
∟ ค่าน้ำมัน ~ 1,000 บาท
∟ ค่าเข้าชม ~ 50 บาท / คน
ระยะเวลาในการเดินทางท่องเที่ยว
ในทริปนี้เราใช้เวลาในการเดินทางท่องเที่ยวเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น เพื่อชมวัดเก่าทั้งในและนอกเกาะอยุธยา เนื่องจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครเพียงแค่ 75 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง และวัดต่างๆตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก จึงใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างน้อย โดยเริ่มจากการเที่ยวชมวัดภายในเกาะเมืองกันก่อน หลังจากนั้นจึงเดินทางออกไปนอกเกาะเมือง แล้วค่อยเดินทางกลับเมื่อชมวัดทั้งหมดเสร็จแล้ว
สำหรับข้อมูลของแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวในแผนการเดินทาง คุณสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างของหน้าเว็บไซต์นี้ ซึ่งจะประกอบไปด้วยเวลาเปิด-ปิด ตำแหน่งที่ตั้ง ค่าเข้าชม เวลาในการท่องเที่ยว และจุดไฮไลท์ต่างๆ เพื่อความสะดวกในการเดินทางของคุณ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการท่องเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยากันนะคะ แล้วพบกันใหม่ในการเดินทางครั้งหน้า ไปกับเรา "Maiden Voyage, Thailand" กับ "การเดินทางครั้งใหม่" ที่กำลังรอคุณอยู่
วัดเก่าพระนครศรีอยุธยา
วัดพระราม
“วัดพระราม” เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมองข้าม เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ อย่างวัดพระศรีสรรเพชญ์และวิหารพระมงคลบพิตร ปัจจุบันภายในวัดยังคงหลงเหลือซากเจดีย์และวิหารเก่าให้เราได้เห็นกันอยู่ และที่ตั้งสูงเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเขตพุทธาวาสแห่งนี้คือ “พระปรางค์ประธาน” ของวัด ที่ยังคงความสมบูรณ์ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน เป็นศิลปะขอมมีรูปทรงคล้ายฝักข้าวโพดขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมก่อด้วยอิฐสอปูน บริเวณใกล้กันนั้นยังคือ “บึงพระราม” ซึ่งปัจจุบันได้ถูกปรับปรุงให้กลายเป็นสวนสาธารณะ เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวอยุธยาและผู้ที่มาเยี่ยมเยือน เดิมสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของพระเจ้าอู่ทอง ก่อนที่จะสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ซึ่งย้ายมาจากวัดพุทไธศวรรย์นอกเกาะอยุธยา
► พิกัด: วัดพระราม, อยุธยา
► เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 – 18:00 น.
► เวลาฉายไฟ: ทุกวัน 19:30 – 21:00 น.
► ค่าเข้าชม: ชาวไทย 10 บาท
ชาวต่างชาติ 50 บาท
► ระเบียบข้อบังคับ:
- ไม่ควรปีนป่ายโบราณสถาน
- ไม่เข้าไปในพื้นที่ห่วงห้าม
- ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
- ไม่นำวัตถุต่างๆของโบราณสถานกลับไป
- ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: ~30 นาที
► เว็บไซต์: www.ayutthaya.go.th
วัดพระศรีสรรเพชญ์
“วัดพระศรีสรรเพชญ์” ถือเป็นวัดที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นวัดส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระราชฐาน เพื่อใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆของบ้านเมือง และเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์ในสมัยนั้นเกือบทุกพระองค์ เจดีย์ทั้ง 3 เป็นสถาปัตยกรรมรูปแบบลังกา ถูกสร้างขึ้นโดยเรียงตัวจากทางทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก โดยมีมณฑปคั่นกลางเจดีย์ทั้ง 3 องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้ “วัดพระศรีสรรเพชญ์” เป็นหนึ่งในมรดกโลกที่สำคัญ จึงทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ เดินทางมาเยี่ยมชมและศึกษาเรื่องราวของสถานที่สำคัญในอดีตแห่งนี้เป็นจำนวนไม่น้อย และบริเวณใกล้กันนั้นยังมีสถานที่สำคัญอย่างเช่น วัดพระราม วัดมหาธาตุ และวังช้างแลเพนียดให้เราได้แวะเที่ยวชมกันอีกด้วย
► พิกัด: วัดพระศรีสรรเพชญ์, อยุธยา
► เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 – 18:00 น.
► เวลาฉายไฟ: ทุกวัน 19:30 – 21:00 น.
► ค่าเข้าชม: ชาวไทย 10 บาท
ชาวต่างชาติ 50 บาท
► ระเบียบข้อบังคับ:
- ไม่ควรปีนป่ายโบราณสถาน
- ไม่เข้าไปในพื้นที่ห่วงห้าม
- ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
- ไม่นำวัตถุต่างๆของโบราณสถานกลับไป
- ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: ~1 ชั่วโมง
► เว็บไซต์: thai.tourismthailand.org
วัดมหาธาตุ
“วัดมหาธาตุ” ตั้งอยู่ในตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา บนเขตพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์และวัดพระรามที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล สิ่งที่ดึงดูดและทำให้วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือ เศียรพระพุทธรูปที่ถูกรากของต้นโพธิ์ขึ้นปกคลุมเอาไว้โดยรอบ เป็นสิ่งอัศจรรย์ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยธรรมชาติและกาลเวลา ไม่เพียงเท่านี้บริเวณเดียวกันนั้นยังมีพระพุทธรูป เจดีย์ วิหาร และพระปรางค์ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ยังคงทิ้งร่องรอยและเศษซากบางส่วน ที่หลงเหลือจากการถูกทำลายและปล่อยทิ้งล้างในช่วงหลังจากการเสียกรุงครั้งที่ 2 ให้เราได้ย้อนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนั้น แม้ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยมานานมากแล้ว แต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังคงเต็มไปด้วยมนต์ขลังดังเช่นที่เคยเป็นมาเมื่อครั้งอดีต
► พิกัด: วัดมหาธาตุ, อยุธยา
► เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 – 18:00 น.
► เวลาฉายไฟ: ทุกวัน 19:30 – 21:00 น.
► ค่าเข้าชม: ชาวไทย 10 บาท
ชาวต่างชาติ 50 บาท
► ระเบียบข้อบังคับ:
- ไม่ควรปีนป่ายโบราณสถาน
- ไม่เข้าไปในพื้นที่ห่วงห้าม
- ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
- ไม่นำวัตถุต่างๆของโบราณสถานกลับไป
- ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: ~30 นาที
► เว็บไซต์: www.ayutthaya.go.th
“วัดใหญ่ชัยมงคล” ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองสวนพลู ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะอยุธยา จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือมีเจดีย์ที่สูงที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งตั้งสูงเด่นเป็นสง่าสามารถมองเห็นได้แต่ไกล คาดว่าถูกปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและอนุสรณ์สถานแก่พระนเรศวรมหาราช ที่ได้รับชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชแห่งพม่า ทำให้วัดแห่งนี้เนืองแน่นไปด้วยผู้คน ที่ต่างเดินทางมาศักการะกราบไหว้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดแห่งนี้เช่น พระพุทธชัยมงคลซึ่งเป็นพระประธานของวัด พระพุทธไสยาสน์ และตำหนักพระนเรศวรมหาราช เป็นต้น เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ในสมัยกรุงศรีอยุธยาวัดแห่งนี้เป็นที่พำนักของพระสังฆราชฝ่ายขาว ส่วนวัดมหาธาตุเป็นที่พำนักของพระสังฆราชฝ่ายซ้าย
► พิกัด: วัดใหญ่ชัยมงคล, อยุธยา
► เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 – 17:00 น.
► ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
► ข้อควรปฏิบัต:
- ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่
- ไม่ควรปีนป่ายโบราณสถาน
- ไม่เข้าไปในพื้นที่ห่วงห้าม
- ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
- ไม่นำวัตถุต่างๆของโบราณสถานกลับไป
► ระยะเวลาในการศักการะ: ~45 นาที
► เว็บไซต์: www.ayutthaya.go.th
“วัดพุทไธศวรรย์” ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือพระปรางค์ประธานสีขาว ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ ณ บริเวณใจกลางเขตพุทธาวาส ซึ่งได้รับอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมมาจากศิลปะขอม รอบพระปรางค์ทั้ง 4 ด้านมีระเบียงราย ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปต่างๆ ที่มีสีเหลืองทองอร่ามดูงดงามจับตา จนต้องยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเก็บภาพเอาไว้ และบริเวณเดียวกันนั้นยังมีวิหารพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่ไว้ภายใน ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ฝึกคาถาอาคมของสำนึกอาจารย์ชีปะขาว และวัดแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในวัดที่ไม่ถูกเผาทำลายในช่วงเสียกรุง จึงยังคงหลงเหลือโบราณสถานให้เราได้ชมกันอยู่อีกมาก นอกจากพระปรางค์วัดพุทไธศวรรย์ วัดไชยวัฒนารามก็มีพระปรางค์ที่มีความสวยงามไม่น้อยไปกว่ากันเลย ถ้าหากเดินทางมาถึงอยุธยาแล้ว ก็อย่าลืมแวะไปชมกันในครบทั้ง 2 ที่นะคะ รับรองว่าคุณจะได้หอบเอาความประทับใจกลับบ้านไปอย่างแน่นอน
► พิกัด: วัดพุทไธศวรรย์, อยุธยา
► เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 – 17:00 น.
► ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
► ระเบียบข้อบังคับ:
- ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่
- ไม่ควรปีนป่ายโบราณสถาน
- ไม่เข้าไปในพื้นที่ห่วงห้าม
- ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
- ไม่นำวัตถุต่างๆของโบราณสถานกลับไป
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: ~30 นาที
► เว็บไซต์: www.putthaijatukam.com
วัดไชยวัฒนาราม
“วัดไชยวัฒนาราม” อาจเป็นชื่อที่คุ้นหูของใครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนละครบุพเพสันนิวาส วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานอกเกาะพระนครศรีอยุธยา วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย รูปแบบสถาปัตยกรรมของวัดได้รับอิทธิพลมาจากเขมร เช่นเดียวกับการสร้างวัดในช่วงสมัยอยุธยาตอนต้นเช่นวัดมหาธาตุ และวัดราชบูรณะ โดยมีพระปรางค์เป็นประธานของวัด วัดไชยวัฒนารามจึงมีจุดเด่นอยู่ที่ “พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ” รอบพระปรางค์ยังมีระเบียงคด เมรุมุม และเมรุทิศ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยจำนวนมากกว่า 120 องค์ แต่หลังจากเสียกรุงครั้งที่ 2 วัดถูกปล่อยทิ้งร้าง ทำให้มีผู้ลักลอบเข้าไปตัดเศียรพระพุทธรูป รื้ออิฐและกำแพงของวัดไปขาย แต่ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงใด วัดไชยวัฒนารามก็ยังคงความงดงามข้ามกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน
► พิกัด: วัดไชยวฒนาราม, อยุธยา
► เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 – 18:00 น.
► เวลาฉายไฟ: ทุกวัน 19:30 – 21:00 น.
► ค่าเข้าชม: ชาวไทย 10 บาท
ชาวต่างชาติ 50 บาท
► ระเบียบข้อบังคับ:
- ไม่ควรปีนป่ายโบราณสถาน
- ไม่เข้าไปในพื้นที่ห่วงห้าม
- ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
- ไม่นำวัตถุต่างๆของโบราณสถานกลับไป
- ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: ~1 ชั่วโมง
► เว็บไซต์: www.ayutthaya.go.th
“วัดพุทไธศวรรย์” ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือพระปรางค์ประธานสีขาว ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ ณ บริเวณใจกลางเขตพุทธาวาส ซึ่งได้รับอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมมาจากศิลปะขอม รอบพระปรางค์ทั้ง 4 ด้านมีระเบียงราย ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปต่างๆ ที่มีสีเหลืองทองอร่ามดูงดงามจับตา จนต้องยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเก็บภาพเอาไว้ และบริเวณเดียวกันนั้นยังมีวิหารพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่ไว้ภายใน ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ฝึกคาถาอาคมของสำนึกอาจารย์ชีปะขาว และวัดแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในวัดที่ไม่ถูกเผาทำลายในช่วงเสียกรุง จึงยังคงหลงเหลือโบราณสถานให้เราได้ชมกันอยู่อีกมาก นอกจากพระปรางค์วัดพุทไธศวรรย์ วัดไชยวัฒนารามก็มีพระปรางค์ที่มีความสวยงามไม่น้อยไปกว่ากันเลย ถ้าหากเดินทางมาถึงอยุธยาแล้ว ก็อย่าลืมแวะไปชมกันในครบทั้ง 2 ที่นะคะ รับรองว่าคุณจะได้หอบเอาความประทับใจกลับบ้านไปอย่างแน่นอน
► พิกัด: วัดพุทไธศวรรย์, อยุธยา
► เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 – 17:00 น.
► ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
► ระเบียบข้อบังคับ:
- ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่
- ไม่ควรปีนป่ายโบราณสถาน
- ไม่เข้าไปในพื้นที่ห่วงห้าม
- ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
- ไม่นำวัตถุต่างๆของโบราณสถานกลับไป
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: ~30 นาที
► เว็บไซต์: www.putthaijatukam.com
วัดไชยวัฒนาราม
“วัดไชยวัฒนาราม” อาจเป็นชื่อที่คุ้นหูของใครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนละครบุพเพสันนิวาส วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานอกเกาะพระนครศรีอยุธยา วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย รูปแบบสถาปัตยกรรมของวัดได้รับอิทธิพลมาจากเขมร เช่นเดียวกับการสร้างวัดในช่วงสมัยอยุธยาตอนต้นเช่นวัดมหาธาตุ และวัดราชบูรณะ โดยมีพระปรางค์เป็นประธานของวัด วัดไชยวัฒนารามจึงมีจุดเด่นอยู่ที่ “พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ” รอบพระปรางค์ยังมีระเบียงคด เมรุมุม และเมรุทิศ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยจำนวนมากกว่า 120 องค์ แต่หลังจากเสียกรุงครั้งที่ 2 วัดถูกปล่อยทิ้งร้าง ทำให้มีผู้ลักลอบเข้าไปตัดเศียรพระพุทธรูป รื้ออิฐและกำแพงของวัดไปขาย แต่ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงใด วัดไชยวัฒนารามก็ยังคงความงดงามข้ามกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน
► พิกัด: วัดไชยวฒนาราม, อยุธยา
► เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 – 18:00 น.
► เวลาฉายไฟ: ทุกวัน 19:30 – 21:00 น.
► ค่าเข้าชม: ชาวไทย 10 บาท
ชาวต่างชาติ 50 บาท
► ระเบียบข้อบังคับ:
- ไม่ควรปีนป่ายโบราณสถาน
- ไม่เข้าไปในพื้นที่ห่วงห้าม
- ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
- ไม่นำวัตถุต่างๆของโบราณสถานกลับไป
- ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: ~1 ชั่วโมง
► เว็บไซต์: www.ayutthaya.go.th