ทริปท่องเที่ยวสถานที่ดังในภูเก็ต 3 วัน 2 คืน
ตะลุยภูเก็ตเที่ยวให้ครบจบในทริปเดียว
หลังกลับมาจากการเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ คงไม่มีใครกล้าพูดว่า “เรายังไปไม่ถึงภูเก็ต” เพราะสำหรับทริปนี้เราเลือกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเทียวขึ้นชื่อของจังหวัดภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะต่างๆและสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นที่รู้จักและเป็นจุดหมายปลายทางของใครหลายๆคนที่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ตแห่งนี้ รวมถึงตัวเราเองด้วยเช่นกัน
เพื่อย่นระยะเวลาในการเดินทางเราจึงซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (กรุงเทพฯ-ภูเก็ต) โดยขาไปเราเลือกเที่ยวบินแรกสุดของวันและขากลับเลือกเป็นเที่ยวบินสุดท้าย เพื่อให้มีเวลาในการท่องเที่ยวมากที่สุด สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวค่อนข้างมาก เพราะนอกจากจังหวัดภูเก็ตแล้วก็ยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังจังหวัดใกล้เคียงได้อีกด้วยเช่น พังงา กระบี่ และสุราษฎ์ธานี ถ้าไปหลายวันเราแนะนำให้นำรถยนต์ส่วนตัวไปจะประหยัดกว่า เพราะไม่ต้องเสียเงินในส่วนของการเช่ารถเพิ่มค่ะ ระยะเวลาในการเดินทางไป-กลับ (กรุงเทพฯ-ภูเก็ต) ต่อ 1 เที่ยวประมาณ 11 ชั่วโมง 30 นาที (ยังไม่รวมแวะทานข้าวนะ)
แผนการท่องเที่ยวภูเก็ต 3 วัน 2 คืน
► ค่าใช้จ่ายโดยรวม: ~10,600 บาท
∟ ค่าน้ำมัน ~3,500 บาท
∟ ค่าแพคเกจทัวร์ ~3,500 บาท
∟ ค่าห้องพัก ~1,800 บาท / คืน
(2 คน / ห้องดีลักซ์)
สำหรับผู้ที่เดินทางไป-กลับ (กรุงเทพฯ-ภูเก็ต) โดยเครื่องบิน วันแรกอาจจะต้องเช่ารถจากสนามบิน หรือจองรถล่วงหน้าจากบริษัทเช่ารถที่ให้บริการ เพื่อเดินทางเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองภูเก็ตหาของอร่อยๆทาน และไปดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ ส่วนวันที่ 2 และ 3 เราจะไปเที่ยวเกาะพีพีและหมู่เกาะสิมิลันกัน ซึ่งแพ็กเกจทัวร์ของการไปเที่ยวเกาะเหล่านี้ จะมีบริการรถรับ-ส่งถึงโรงแรมที่พัก อาจมีคิดค่าบริการเพิ่มเติมจากราคาแพ็กเกจบ้างหากโรงแรมที่พักอยู่ไกลจากท่าเรือ จึงไม่ต้องเช่ารถต่อสำหรับวันที่ 2 และ 3 ค่ะ แต่ถ้าหากใครต้องการความสะดวก ไม่อยากตื่นแต่เช้าและกลับถึงโรงแรมดึกก็สามารถเช่ารถต่อกันได้จนจบทริปค่ะ
ในส่วนถัดไปจะเป็นไฮไลท์ของแต่ละสถานที่ที่เราเดินทางไปท่องเที่ยวในทริปนี้ ซึ่งคุณสามารถคลิกที่ “ชื่อของสถานที่ท่องเที่ยว” ต่างๆ เพื่อเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมและภาพความสวยงามของสถานที่เหล่านั้นกันได้ เผื่อข้อมูลเหล่านี้อาจทำให้การเดินทางของคุณเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น ไปกับเรา “Maiden Voyage, Thailand” กับ “การเดินทางครั้งใหม่” ที่กำลังรอเราอยู่
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
หากใครชื่นชอบผลงานทางด้านสถาปัตยกรรม คงเพลิดเพลินไปกับการเดินเที่ยวชมตึกเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่ตั้งอยู่บนถนนทั้ง 4 สายในตัวเมืองจังหวัดภูเก็ต ซึ่งร้านอาหาร ค่าเฟ่ และที่พักในย่านนี้ ได้นำอาคารเก่าเหล่านี้มาปรับปรุงเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์เดิมของตัวอาคารเอาไว้เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และมีอาคารอีกหลายหลังที่คนภูเก็ตดั้งเดิมยังคงใช้เป็นที่พักอาศัยจนถึงทุกวันนี้ ช่วงเช้าเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเดินเที่ยวถ่ายรูปอาคารต่างๆ เพราะอากาศยังไม่ร้อนและผู้คนยังไม่พลุกพล่านมากนัก ทำให้เราได้เห็นวิธีชีวิตของผู้คนที่นี่ และได้แวะทานอาหารเช้าและเลือกซื้อของประจำท้องถิ่นได้อย่างสะดวก
► พิกัด: ย่านตึกเก่าชิโนยูโรเปียน
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: ~ 2 ชั่วโมง
► เว็บไซต์: thai.tourismthailand.org
ใครที่ชอบรับประทานอาหารจีน ไม่ควรพลาดที่จะมาทานหมี่ฮกเกี้ยนที่ร้าน “หมี่ต้นโพธิ์” ซึ่งเปิดขายกันมาอย่างยาวนานกว่า 80 ปี ปัจจุบันทายาทรุ่นที่ 3 เป็นผู้ดูแลกิจการ ซึ่งทางร้านได้คัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพดีเพื่อนำมาใช้ปรุงอาหาร จึงทำให้ร้านหมี่ต้นโพธิ์เป็นหนึ่งในร้านอาหารของจังหวัดภูเก็ตที่มีชื่อติดอยู่ในลิสต์ของ “มิชลิน ไกด์” นอกจากเมนูหมี่ฮกเกี้ยน ทางร้านยังมีเมนูอาหารทานเล่น เช่น หมูสะเต๊ะ ห่อหมก ทอดมัน และขนมหวานอย่างโอ้เอ๋ว ซึ่งเป็นขนมประจำท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต ที่ควรลองสั่งมาทานกันอีกด้วย ซึ่งสาขาวงเวียนหอนาฬิกาอยู่ไม่ไกลจากย่านเมืองเก่าชิโนโปรตุกีสมากหนัก หากเดินชมเมืองกันจนเหนื่อยแล้ว ก็สามารถแวะมาทานอาหารที่ร้าน “หมี่ต้นโพธิ์ สาขาวงเวียนหอนาฬิกา” เพื่อเติมพลังกันก่อนได้ค่ะ
► พิกัด: หมี่ต้นโพธิ์ (สาขาวงเวียนหอนาฬิกา)
► เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 09:00 – 18:30 น.
► เว็บไซต์: facebook.com/meetonpoe
“พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว” แต่เดิมเป็นโรงเรียนจีนที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต ต่อมาตัวอาคารและพื้นที่โดยรอบได้ถูกปรับปรุงเพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่บอกเล่าเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของชาวจีนโพ้นทะเล ที่ได้อพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามายังเกาะภูเก็ตแห่งนี้ ให้แก่ผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ โดยตัวอาคารมีรูปแบบทางด้านสถาปัตยกรรมแนวชิโน-โปรตุกีส เช่นเดียวกับย่านเมืองเก่า ภายในอาคารจัดแสดงแบ่งออกไปห้องต่างๆตามหัวข้อ ตั้งแต่การอพยพย้ายถิ่นฐาน การก่อร่างสร้างตัว วิถีชีวิตและภูมิปัญญา ไปจนถึงบทบาทสำคัญในการพัฒนาเมืองภูเก็ต
► พิกัด: พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว
► เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 09:00 – 17:00 น.
► รอบการบรรยาย: รอบเช้า 09:30 – 10:30 น.
และ 11:00 – 12:00 น.
รอบบ่าย 13:30 – 14:30 น.
และ 15:30 – 16:30 น.
► ค่าเข้าชม: คนไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท,
นักเรียน-นักศึกษา 25 บาท
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท,
นักเรียน-นักศึกษา 120 บาท
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: ~1 ชั่วโมงครึ่ง
วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง)
“วัดไชยธาราราม” หรือ “วัดฉลอง” เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองประจำจังหวัดภูเก็ต ผู้คนต่างเดินทางมาที่วัดแห่งนี้กันอย่างไม่ขาดสาย เพื่อมาศักการะกราบไหว้ “หลวงพ่อแช่ม” ที่มีกิตติศัพท์ทางด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ทำให้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของบุคคลทั่วไป และเพื่อความเป็นศิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว ภายในพื้นที่ของวัดยังมี “พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ” ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้ถูกอัญเชิญมาจากเมืองอนุราชปุระ ประเทศศรีลังกา เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ทรงเจริญพระชนมายุครบ 72 พรรษา บนผนังและเพดานภายในพระมหาธาตุเจดีย์ฯมีภาพวาดจริตกรรมอันสวยงาม ซึ่งเป็นการบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ จนกระทั่งปรินิพพาน ซึ่งวัดฉลองนั้นตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านเมืองเก่ามากนัก จึงใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการเดินทางจากตัวเมืองภูเก็ตมาที่วัดฉลองแห่งนี้
► พิกัด: วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง)
► เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 – 17:00 น.
► ข้อควรปฏิบัติ: แต่งการสุภาพเรียบร้อย
► ระยะเวลาในการศักการะ: ~40 นาที
► เว็บไซต์: watchalongphuket.com
จุดชมวิวกังหันลมภูเก็ต
“จุดชมวิวกังหันลม” เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากถูกล้อมรอบไปด้วยเกาะและหาดต่างๆในมุม 180 องศา ทำให้มีมุมสำหรับการถ่ายภาพให้เลือกมากมาย หากเราหันหน้าออกสู่ทะเลทางด้านซ้ายมือของเราจะเป็น “หาดยะนุ้ย” ที่มีผู้คนมาเล่นน้ำและอาบแดดกันที่หาดแห่งนี้ ส่วนบริเวณด้านหน้าคือ “เกาะมัน” เป็นแหล่งดำน้ำตื้นอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต และทางด้านขวามือคือ “หาดในหาน” ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมและที่พักมากมาย และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ด้านหลังของทิวทัศน์ที่สวยงามทั้งหมดที่ว่ามาคือ สถานที่ตั้งของกังหันลมที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของจุดชมวิวแห่งนี้
นอกจากวิวของท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เรายังจะได้เห็นเรือต่างๆที่แล่นผ่านไปมาในน่านน้ำแถวนี้ เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกกันอีกด้วย เพราะจุดชมวิวนี้อยู่ไม่ไกลจาก “แหลมพรหมเทพ” ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายที่ดวงอาทิตย์จะหายลับไปจากท้องฟ้าของประเทศไทย
► พิกัด: จุดชมวิวกังหันลม, ภูเก็ต
► เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 06:00 – 18:00 น.
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: ~45 นาที
► ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ตั้งแต่ 16:30 – 18:30 น.
ของทุกวันตามฤดูกาล
► สิ่งที่ควรจัดเตรียม: อุปกรณ์กันแดดต่างๆ
“วันนี้พระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพเป็นเวลา” คงเป็นประโยคที่คุ้นหูของใครหลายๆคน เมื่อได้ฟังข่าวพยากรณ์อากาศผ่านทางคลื่นวิทยุ เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นที่สุดท้ายที่ดวงอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าของประเทศไทยไปในแต่ละวัน ช่วงเวลานี้เป็นเหมือนช่วงเวลาต้องมนต์ ที่สะกดให้สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่ดวงตะวัน รอคอยให้มันค่อยๆจมหายไปในผืนน้ำอันกว้างใหญ่ เหมือนเป็นการบอกลากับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้
นอกจากแสงสุดท้ายของวันที่เราจะได้เห็นกันที่แหลมพรหมเทพแล้ว เรายังสามารถเข้าไปศึกษาหาความรู้ด้านอุทกศาสตร์ภายในประภาคารกาญจนาภิเษก และยังมีศาลพระพรหมและอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร (เสด็จเตี่ย) ให้เราได้ไปศักการะกราบไหว้เพื่อความเป็นศิริมงคลกันอีกด้วย และถ้าหากคุณต้องการหลีกหนีจากผู้คนจำนวนมาก คุณสามารถไปรอชมพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิวกังหันลมแทนได้ เพราะมีจำนวนคนที่ค่อนข้างน้อยกว่า
► พิกัด: แหลมพรหมเทพ, ภูเก็ต
► เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: ~2 ชั่วโมง
► ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ตั้งแต่ 16:30 – 18:30 น.
ของทุกวันตามฤดูกาล
► เว็บไซต์: phuketcity.go.th
หมู่เกาะพีพี
“หมู่เกาะพีพี” สวรรค์ของคนรักการถ่ายรูปและชอบเที่ยวทะเล เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับน้ำทะเลสีเขียวมรกตตัดกับท้องฟ้าสีครามแล้ว ยังมีมุมถ่ายภาพที่สวยงามอีกมากมายที่แอบซ่อนตัวอยู่ในทริปการเดินทางท่องเที่ยวเกาะพีพีในครั้งนี้ ตั้งแต่การถ่ายรูปเรือยอร์ชที่ท่าเทียบเรือ ล่องเรือหัวโทงเข้าไปถ่ายรูปคู่กับภูเขาหินปูนและลงเล่นน้ำที่ “ปิเละลากูน” ดำน้ำดูปลาการ์ตูนที่ “เกาะไวกิ้ง” แวะทานข้าวและซื้อของที่ระลึกที่ “เกาะพีพีดอน” และสัมผัสหาดทรายขาวและชมทิวสนอันสวยงามที่ “เกาะไผ่” เป็นทริปการเดินทางท่องเที่ยวทะเลภูเก็ต ที่จะอยู่ในความทรงจำของคุณไปอีกนานแสนนาน และอยากกลับมาเที่ยวเกาะพีพีอีกในเร็ววัน และถ้าใครชื่นชอบการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ อย่าพลาดที่จะเดินทางไปเที่ยวหมู่เกาะสิมิลันกันด้วยนะคะ
เพิ่มเติม: เราสามารถลงเรือไปทัวร์หมู่เกาะพีพีได้จาก 2 จังหวัดคือกระบี่และภูเก็ต ซึ่งระยะเวลาในการเดินทางจากท่าเรือไปเกาะพีพีจากจังหวัดกระบี่จะสั้นกว่าภูเก็ต แต่ในครั้งนี้เราเลือกลงเรือที่จังหวัดภูเก็ตค่ะ ซึ่งท่าเรือและเวลาในการท่องเที่ยวสามารถสอบถามได้จากทัวร์ที่ให้บริการ โดยแพ็กเกจส่วนใหญ่จะมีรถบริการรับ-ส่งถึงที่พัก ค่าบริการขึ้นอยู่กับระยะทางค่ะ
► พิกัด: ท่าเรือวิสิษฐ์พันวา, ภูเก็ต
► ค่าบริการ: แพ็กเกจทัวร์เกาะพีพี
= ~1,600 บาท / คน
+ ค่าเรือหัวโทงทัวร์ปิเละลากูน
∟ เหมาลำ = ~1,500 บาท/ลำ
(ไม่เกิน 7 คน)
∟ จอยกรุ๊ป = ~300 บาท / คน
► สิ่งที่ควรจัดเตรียม: ครีม-อุปกรณ์กันแดด /
ชุดเล่นน้ำ / รองเท้าเดินหาด
/ ยาแก้เมาเรือ
► สิ่งที่ต้องระวัง: อาการเมาเรือ / คลื่น ลมและ
สภาพอากาศในแต่ละวัน
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: 09:00 – 16:00 น.
► ช่วงเวลาที่เหมาะสม: มกราคม – มีนาคม
► เว็บไซต์: krabi.thailocallink.com
หมู่เกาะสิมิลัน
“หมู่เกาะสิมิลัน” สวรรค์ของคนรักการดำน้ำ ประกอบด้วยเกาะย่อยทั้งหมด 9 เกาะ ที่เรียงตัวกันจากทางทิศเหนือไปทิศใต้ ซึ่งมีจุดดำน้ำลึกและตื้นอยู่หลายจุดให้เราได้เลือกกันตามความชอบ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่รักการดำน้ำจึงพากันเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้ เพื่อชมความสวยงามของใต้ท้องทะเล และตื่นตาตื่นใจไปกับฝูงปลานานาชนิดและปะการังหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งในแต่ละจุดก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ทำให้การดำน้ำที่หมู่เกาะสิมิลันนี้ไม่น่าเบื่อ
และหมู่เกาะสิมิลันไม่ได้มีดีแค่เรื่องการดำน้ำเท่านั้น ไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งของที่นี่คือจุดชมวิว “หินเรือใบ” ที่เกาะสิมิลัน (เกาะ 8) ณ บริเวณอ่าวเกือก หรือที่ชาวต่างชาติรู้จักกันในชื่อ “อ่าวโดนัลด์ดั๊ก” เมื่อเดินขึ้นไปที่ลานหินด้านบน เราสามารถมองเห็นวิวของท้องทะเลได้เกือบ 360 องศา เป็นภาพผืนน้ำอันกว้างใหญ่ที่สะท้อนกับแสงแดดจนเป็นประกายระยิบระยับตัดกับท้องฟ้าสีคราม เป็นภาพความสวยงามของท้องทะเลที่คุณจะไม่มีวันลืม ได้ไปเที่ยวหมู่เกาะสิมิลันแล้วก็อย่าลืมหมู่เกาะพีพีกันไปซะก่อนนะคะ
► พิกัด: ท่าเรือทับละมุ, พังงา
► ค่าบริการ: แพ็กเกจทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน
= ~1,600 บาท / คน
► ระเบียบข้อบังคับ: ไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้าขึ้นเกาะ
► สิ่งที่ควรจัดเตรียม: ครีม-อุปกรณ์กันแดด /
ชุดเล่นน้ำ / รองเท้าเดินหาด
/ ยาแก้เมาเรือ
► สิ่งที่ต้องระวัง: อาการเมาเรือ / คลื่น ลม และ
สภาพอากาศในแต่ละวัน
► ระยะเวลาในการท่องเที่ยว: 08:00 – 16:30 น.
► ช่วงเวลาที่เหมาะสม: มกราคม – มีนาคม
การเดินทางก็เริ่มต้นขึ้นได้ทันที