หมู่เกาะพีพี, กระบี่
เที่ยวทะเลใต้เล่นน้ำเกาะพีพี
ล่องเรือชมลากูนสัมผัสหาดทรายขาว
รีวิวเที่ยวทะเลใต้หมู่เกาะพีพี
“หมู่เกาะพีพี” เป็นอีกหนึ่งหมู่เกาะซึ่งเป็นที่รู้จักของคนไทย และมีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ เพราะความสวยงามของน้ำทะเลสีเขียวมรกตตัดกับท้องฟ้าสีคราม ที่สร้างความตราตรึงใจให้แก่ผู้คนที่ได้พบเห็น จนต้องแวะเวียนกลับมาชมความสวยงามของสถานที่แห่งนี้อยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังหมู่เกาะแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่ผู้คนและธุรกิจในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี
การเดินทางไปยังเกาะพีพีจากภูเก็ต
“หมู่เกาะพีพี” เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่กลางทะเล เราสามารถขึ้นเรือเพื่อเดินทางไปยังหมู่เกาะแห่งนี้ได้จากทั้งฝั่งจังหวัดกระบี่และภูเก็ต ซึ่งในครั้งนี้เราเลือกขึ้นเรือที่ท่าเรือวิสิษฐ์พันวา จังหวัดภูเก็ต ใช้เวลาในการเดินทางจากท่าเรือไปที่เกาะพีพีเลประมาณ 45 นาที แต่ถ้าขึ้นเรือจากจังหวัดกระบี่จะใช้เวลาน้อยกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและคลื่นลมในแต่ละวันด้วย ยังไงก็อย่าลืมพกยาแก้เมาเรือติดกระเป๋าไปด้วยนะคะ เผื่อคลื่นลมในวันนั้นค่อนข้างแรง ซึ่งทางทัวร์ได้จัดเตรียมไว้ให้เราที่ท่าเรือสามารถหยิบได้ฟรีค่ะ
ข้อมูลหมู่เกาะพีพี
“หมู่เกาะพีพี” ประกอบไปด้วยเกาะย่อยทั้งหมด 6 เกาะ สำหรับเรือทัวร์ที่เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวมักจะพาเราไปแค่ 3 เกาะคือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน และเกาะไผ่ ส่วน 3 เกาะที่เหลือคือ เกาะยูง เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน ระยะเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวรวมแล้วประมาณเกือบ 5 ชั่วโมง ซึ่งทางทัวร์จะให้เราเดินทางไปถึงท่าเรือประมาณ 8 โมงครึ่ง ก่อนลงเรือประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อเช็คอินและรับประทานอาหารเช้า
ปิเละลากูน, หมู่เกาะพีพี
ที่แรกที่พี่คนขับเรือพาเราไปนั้นก็คือ “เกาะพีพีเล” ซึ่งเป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ที่มีหน้าผาสูงชัน เรียงตัวเป็นแนวโค้งจนเกิดเป็นอ่าวที่สวยงามได้แก่ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา และอ่าวโละซามะ ซึ่งอ่าวหลักที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปถ่ายรูปและลงเล่นน้ำนั้นก็คือ “อ่าวปิเละ” ที่ได้ชื่อว่า “สระว่ายน้ำกลางทะเล” เพราะแสงแดดที่ตกต้องน้ำทะเลจนเกิดเป็นประกายสีเขียวมรกต สำหรับอ่าวมาหยาและอ่าวโละซามะบางช่วงทางอุทยานจะทำการปิดอ่าวเพื่อให้ธรรมชาติได้เกิดการฟื้นฟู
ซึ่งเราสามารถล่องเรือเข้าไปชมความสวยงามของภูเขาหินปูนรอบปิเละลากูนและลงเล่นน้ำกันได้ โดยการเช่าเรือหัวโทงของชาวบ้านผ่านทางบริษัททัวร์ที่พาเรามาท่องเที่ยวในครั้งนี้ ซึ่งสามารถแจ้งความต้องการได้พร้อมกับที่เราทำการจองแพคเกจทัวร์นี้ หรือแจ้งความประสงค์ได้ตอนที่เดินทางมาเช็คอิน โดยเรือหัวโท่งจะมี 2 ราคาด้วยกันคือ เรือเช่าเหมาลำ (ราคา ~1,500 บาท นั่งได้ไม่เกิน 7 คน/ลำ) และเรือจอย (ราคาประมาณ ~300 บาท/คน นั่งรวมกับคนอื่น) ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเช่าเรือหัวโทงก็ได้นะคะ เพราะเราสามารถลงเล่นน้ำและถ่ายรูปอยู่รอบเรือใหญ่ได้
ถ้ำไวกิ้ง, หมู่เกาะพีพี
หลังจากลงเล่นน้ำและถ่ายรูปกันจนหนำใจเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมงแล้ว เราก็ออกจากปิเละลากูนเพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะพีพีดอน ซึ่งระหว่างทางเราได้จอดแวะชม “ถ้ำไวกิ้ง” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ถ้ำพญานาค” ซึ่งเป็นชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในปีพ.ศ. 2515 ตามลักษณะของหินก้อนหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายกับเศียรของพญานาค ถ้ำแห่งนี้เป็นที่อาศัยของนกนางแอ่น จึงได้มีการทำสัมปทานเก็บรังนกเกิดขึ้น
และอีกหนึ่งที่ก่อนที่เราจะได้ขึ้นไปบนเกาะพีพีดอนเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ทางทัวร์ก็ได้จอดเรือแวะให้เราได้ดำน้ำดูปลาการ์ตูน (หรือที่เด็กๆรู้จักกันในชื่อปลานีโม่) และปลาชนิดอื่นๆรวมถึงปะการังอีกหลากหลายชนิด แนะนำว่าถ้าอยากเห็นปลาการ์ตูนให้เกาะติดไกด์ทัวร์เอาไว้นะคะ เพราะเราต้องหาปะการังที่มันใช้อาศัยเป็นบ้านเพื่อหลบภัยจากศัตรูของมันให้เจอ มันจะว่ายผลุบเข้าผลุบออกอยู่ตามปะการังเหล่านี้
เกาะพีพีดอน, หมู่เกาะพีพี
เมื่อกิจกรรมครึ่งวันเช้าผ่านพ้นไปท้องเราก็เริ่มส่งเสียงโอดครวญ พี่คนขับเรือจึงพาเรามาแวะทานข้าวและหาเครื่องดื่มเย็นๆทานกันที่ “เกาะพีพีดอน” ซึ่งทางทัวร์ได้มีการจัดอาหารกลางวันเตรียมไว้ให้เราได้ทานอย่างจุใจ ใครไม่อิ่มก็สามารถขอเติมกันได้ แต่ถ้าหากต้องการดับร้อนด้วยเครื่องดื่มเย็นๆหรือของหวานก็สามารถหาทานกันต่อได้บนเกาะแห่งนี้ เพราะเกาะพีพีดอนเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีร้านค้า สิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงโรงแรมที่พักเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอยู่มากมาย และเรายังสามารถหาซื้อของฝากของที่ระลึกกันได้ที่เกาะแห่งนี้
เกาะไผ่, หมู่เกาะพีพี
ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังท่าเรือ เราก็ออกเดินทางต่อไปยังเกาะไผ่ซึ่งเป็นเกาะสุดท้ายของทริปการเดินทางในครั้งนี้ เกาะไผ่มีหาดทรายสีขาวประกอบกับทิวสนซึ่งมีฉากหลังเป็นน้ำทะเลสีฟ้าใสตัดกับท้องฟ้าสีคราม ถ้าใครรักการถ่ายรูปต้องหลงรัก “เกาะไผ่” แห่งนี้อย่างแน่นอน ด้วยความที่เกาะไผ่มีมุมสวยๆให้เราได้เลือกถ่ายรูปอยู่มากมาย พร้อมทั้งมุมสงบให้เราได้หลับตาลงเอนกายฟังเสียงคลื่นที่สาดสัดเข้าหาฝั่ง สร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงประกอบกับกิจกรรมมากมายที่เราได้ทำมาตลอดทั้งวัน ก็ทำให้เรารู้ตัวว่าช่วงเวลาแห่งความสุขกำลังจะผ่านพ้นไป เราขึ้นเรือออกจากเกาะไผ่เพื่อเดินทางกลับ ในระหว่างนั้นทางทัวร์ก็ได้แจกขนมเปี๊ยะเจ้าดังของจังหวัดภูเก็ตให้เราได้ทานกัน เพื่อเติมพลังในช่วงสุดท้ายก่อนที่ทริปนี้จะจบลง และก่อนที่จะจากลากันไปเราสามารถจับจองรูปภาพเพื่อนำกลับไปเป็นที่ระลึกกันได้ ซึ่งทางทัวร์ได้ถ่ายไว้ให้เราก่อนขึ้นเรือ และตลอดระยะเวลาที่เราเดินทางท่องเที่ยวกันที่หมู่เกาะพีพีแห่งนี้
ภาพท้องทะเลหมู่เกาะพีพี
นอกจากหมู่เกาะพีพียังมี “หมู่เกาะสิมิลัน” ที่ถือได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักการดำน้ำ ซึ่งความสวยงามของท้องทะเลที่หมู่เกาะสิมิลัน ถือได้ว่าไม่แพ้หมู่เกาะพีพีกันเลยทีเดียว และถ้าหากคุณกำลังจะเดินทางไปท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ต แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน คุณสามารถเข้าไปดู “แผนการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต” กันก่อนได้ นี่อาจเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่จะช่วยประหยัดเวลาให้กับคุณในการวางแผนการท่องเที่ยว และทำให้การเดินทางของคุณเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น
เพราะข้อมูลที่จำเป็นต่อการเดินทางได้ถูกรวบรวมเอาไว้แล้วในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นแผนการเดินทาง พิกัด เวลาเปิด-ปิด ค่าเข้าชม ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว ทั้งคุณยังจะได้ทราบค่าใช้จ่ายโดยประมาณของทั้งทริปก่อนออกเดินทางกันอีกด้วย ไปกับเรา “Maiden Voyage, Thailand” กับ “การเดินทางครั้งใหม่” ที่กำลังรอเราอยู่
การเดินทางก็เริ่มต้นขึ้นได้ทันที